1. วิเคราะห์ทำเล

1.1 ทำเลสำหรับที่ดิน

• ความเจริญ อยู่ใกล้รถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โรงพยาบาล หรือแหล่ง amenities อื่นๆ
• การคมนาคม สะดวกต่อการเดินทาง เข้าออกได้หลายทาง มีระบบขนส่งสาธารณะรองรับ
• สภาพแวดล้อม เงียบสงบ ปลอดภัย วิวทิวทัศน์สวยงาม ปราศจากมลพิษ
• ขนาดและรูปร่าง เหมาะกับการก่อสร้าง พื้นที่ใช้สอยเพียงพอ รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส

1.2  ทำเลสำหรับบ้าน

• ประเภทของบ้าน ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม
• ขนาดและจำนวนห้อง เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในครอบครัว
• สิ่งอำนวยความสะดวก ครบครัน เช่น สระว่ายน้ำ สวน ฟิตเนส
• ความปลอดภัย มีระบบรักษาความปลอดภัย รปภ. กล้องวงจรปิด

2. ประเมินราคา

• เปรียบเทียบราคากับที่ดินและบ้านในบริเวณใกล้เคียง พิจารณาจากขนาด สภาพ สิ่งอำนวยความสะดวก
• วิเคราะห์ราคาตลาด: ศึกษาข้อมูล แนวโน้มราคา จากแหล่งข้อมูลน่าเชื่อถือ
• ปรึกษาตัวแทนอสังหาริมทรัพย์: ผู้เชี่ยวชาญ ประเมินราคา ให้คำแนะนำ

3. เตรียมเอกสาร

• โฉนดที่ดิน กรณีที่ดิน
• หนังสือสัญญาซื้อขาย: กรณีบ้าน
• เอกสารสิทธิ์อื่นๆ: เช่น ใบอนุญาตก่อสร้าง ใบจดทะเบียนบ้าน

4. เลือกตัวแทนอสังหาริมทรัพย์

• ประสบการณ์ เชี่ยวชาญในพื้นที่ มีผลงานการขายที่ดี
• ชื่อเสียง น่าเชื่อถือ ได้รับความไว้วางใจ
• บริการ ครบวงจร ดูแลตั้งแต่ต้นจนจบ
• ค่าธรรมเนียม: สมเหตุสมผล

5. เตรียมบ้านให้พร้อม

• ทำความสะอาด เก็บกวาด จัดบ้านให้ดูสะอาด เรียบร้อย
• ตกแต่ง ทาสีใหม่ จัดสวน เพิ่มแสงสว่าง
• ถ่ายรูป รูปสวย มุมมองดี ดึงดูดความสนใจ

6. ทำการตลาด

• โฆษณา ช่องทางออนไลน์ ออฟไลน์
• จัด Open House เชิญลูกค้าเข้าชม
• เจรจาต่อรอง: เสนอราคา เงื่อนไข

7. ปิดการขาย

• ตรวจสอบเอกสาร ครบถ้วน ถูกต้อง
• เซ็นสัญญา ทำสัญญาซื้อขาย โอนกรรมสิทธิ์
• ชำระค่าธรรมเนียม ตามที่ตกลง