การจัดการภาระหนี้สินอย่างมีประสิทธิภาพเป็นส่วนสำคัญในการรักษาสุขภาพการเงินที่ดี หนึ่งในปัจจัยหลักที่กำหนดว่าสุขภาพการเงินของคุณแข็งแรงหรือไม่ คือการที่คุณสามารถบริหารจัดการหนี้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับรายได้ของคุณได้อย่างไร เพื่อไม่ให้ภาระหนี้สินส่งผลต่อความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าควรแบกรับหนี้ในระดับใดจึงจะสมดุลกับรายได้
รายได้เท่านี้ ต้องแบกภาระหนี้ระดับใด
1. อัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ (Debt-to-Income Ratio - DTI)
อัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ หรือ DTI เป็นตัวบ่งชี้สำคัญในการวัดความสามารถในการชำระหนี้ของคุณ โดยปกติ อัตราส่วน DTI ที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 36% ของรายได้ต่อเดือน ซึ่งหมายความว่า หากคุณมีรายได้เดือนละ 50,000 บาท หนี้สินทั้งหมดที่ต้องชำระต่อเดือน ไม่ควรเกิน 18,000 บาท ซึ่งค่านี้เป็นระดับที่ยังสามารถจัดการได้โดยไม่ทำให้เกิดความเครียดทางการเงินมากเกินไป
ตัวอย่างการคำนวณ DTI:
- หากคุณมีรายได้ 30,000 บาทต่อเดือน และมีภาระหนี้สินในการชำระเดือนละ 10,000 บาท อัตราส่วน DTI ของคุณจะอยู่ที่ (10,000 ÷ 30,000) × 100 = 33.33% ซึ่งยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย
2. สัดส่วนหนี้เพื่อที่อยู่อาศัย
สำหรับการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านหรือที่อยู่อาศัย ผู้เชี่ยวชาญทางการเงินแนะนำว่า ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับบ้าน เช่น ค่าผ่อนบ้านและค่าบำรุงรักษา ไม่ควรเกิน 25-30% ของรายได้ นี่จะช่วยให้คุณยังมีเงินเหลือเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายประจำวันและค่าใช้จ่ายฉุกเฉินอื่น ๆ โดยไม่ต้องแบกภาระหนี้ที่มากเกินไป
3. การสำรองเงินฉุกเฉินเพื่อคุมหนี้
แม้คุณจะสามารถจัดการหนี้ให้อยู่ในอัตราส่วนที่เหมาะสม แต่การมี เงินสำรองฉุกเฉิน ก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น การเจ็บป่วย หรือตกงาน ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าควรมีเงินสำรองที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 3-6 เดือน เช่น หากคุณมีค่าใช้จ่ายเดือนละ 20,000 บาท ควรสำรองเงินประมาณ 60,000-120,000 บาท เพื่อให้คุณสามารถชำระหนี้ได้แม้ในช่วงที่รายได้ไม่แน่นอน
4. การคำนวณหนี้สินที่ดีและหนี้สินที่ควรระวัง
การมีหนี้ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายเสมอไป หากเป็นหนี้ที่สร้างมูลค่า เช่น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือการศึกษาที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการหารายได้ อย่างไรก็ตาม หนี้ที่ควรระวังคือ หนี้บริโภค เช่น หนี้บัตรเครดิต หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่มักจะมีอัตราดอกเบี้ยสูงและอาจทำให้เกิดภาระหนี้เกินกำลัง หากมีหนี้ประเภทนี้ ควรรีบชำระให้หมดก่อนจะสะสมดอกเบี้ยจนเกินควบคุม
5. ความสำคัญของการออม
การมีหนี้ไม่ควรทำให้ละเลยการออมเงิน การออมควรเป็นสิ่งที่ควบคู่ไปกับการบริหารหนี้ โดยควรออมอย่างน้อย 10-20% ของรายได้ต่อเดือน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต และสร้างความมั่นคงทางการเงิน การออมเป็นหนึ่งในวิธีการป้องกันตัวเองจากการเป็นหนี้เพิ่มเติมในอนาคต
6. การลงทุนและการสร้างรายได้เสริม
สุขภาพการเงินที่ดีไม่ใช่แค่ไม่มีหนี้สิน แต่ยังรวมถึงการมีเงินทำงานให้คุณผ่านการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนอย่างเหมาะสม เช่น หุ้น, กองทุนรวม, หรืออสังหาริมทรัพย์
7. การบริหารจัดการหนี้ที่มีประสิทธิภาพ
การเป็นหนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่เลวร้าย หากคุณสามารถบริหารจัดการได้ดี การมีหนี้ในระดับที่เหมาะสม เช่น การผ่อนบ้านหรือรถยนต์ที่คิดดอกเบี้ยต่ำและระยะเวลาการผ่อนชำระที่สามารถจัดการได้ ก็ไม่ถือว่าทำให้สุขภาพการเงินแย่
สรุป
การจัดการหนี้สินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับรายได้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการมีสุขภาพการเงินที่ดี อัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ (DTI) ไม่ควรเกิน 36% ของรายได้ต่อเดือน และควรแบ่งภาระหนี้สินอย่างรอบคอบ เช่น หนี้บ้านไม่เกิน 25-30% ของรายได้ การมีเงินสำรองฉุกเฉินและการออมเงินควรเป็นสิ่งที่ทำควบคู่กัน เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดและรักษาความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว
คำแนะนำเพิ่มเติม
หากคุณรู้สึกว่าภาระหนี้เริ่มเกินกำลัง ควรพิจารณาการลดค่าใช้จ่ายหรือหาวิธีเพิ่มรายได้ เช่น การหารายได้เสริม การจัดการค่าใช้จ่ายประจำวันอย่างมีวินัย และหากจำเป็นอาจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินเพื่อขอคำแนะนำในการปรับปรุงแผนการเงินของคุณ
วิธีเช็กราคาประเมินด้วยตัวเองผ่านช่องทางต่างๆ อัพเดพล่าสุด 2566
ประเมินราคาที่ดินออนไลน์ ตรวจสอบราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เช็คราคาประเมินที่ดิน 2566 กรมธนารักษ์ ผ่านเว็บไซด์ประเมินราคาที่ดินออนไลน์ >> https://assessprice.treasury.go.th/
แอพราคาประเมินที่ดิน ทางแอปพลิเคชัน TRD Property Valuation สามารถดาวน์โหลดได้ทั้ง IOS และ Android
- ทาง Call Center กรมธนารักษ์ โทร 0-2270-0360-63 และ 0-2059-4999
บทความที่เกี่ยวข้อง
- สินเชื่อเงินด่วน
- สินเชื่อบ้าน และที่ดิน
- จำนองบ้าน
- รับจำนองที่ดิน
- เงินด่วน แลนด์ฟอร์โลน
- สินเชื่อบ้านแลกเงิน อาชีพอิสระ
- กฎหมายขายฝากฉบับใหม่ 2567
- สินเชื่อบ้านแลกเงิน
- รับขายฝากอสังหา กรุงเทพฯ
- ที่ดินขายทอดตลาด กรมบังคับคดี 2566
- ค่าธรรมเนียมไถ่ถอนจํานองที่ดิน2566
- ขายฝาก ที่ดิน กฎหมายใหม่ 2566
- ภาษีขายฝากที่ดิน ปี2566
- สินเชื่อบ้าน ที่ดิน คอนโด
- ขายฝากต้องทำยังไง 2567
- ทำสัญญา จำนองโฉนดที่ดิน
- ข้อดีและข้อเสียของการขายฝากบ้านและที่ดิน
- ขายฝากที่ดิน ได้ผลตอบแทนสูง
- อัตราดอกเบี้ยในการขายฝากบ้านและที่ดิน
- ระยะเวลาสัญญาขายฝากที่ดิน
- จํานองกับขายฝาก ต่างกันยังไง
- โฉนดแลกเงิน รับขายฝาก สินเชื่อบ้าน
- โฉนดที่ดิน ตราครุฑ ต่างกันอย่างไร
- ขายฝากที่ดินคืออะไร?
- โฉนดที่ดินออนไลน์
- ค้นหาโฉนดที่ดิน
- บริการ สินเชื่อบ้าน ที่ดิน
- ฤกษ์ดีกุมภาพันธ์ 2567
- การจำนองคืออะไร
- สินเชื่อเงินด่วน
- สินเชื่อเงินด่วน 2567
สารบัญ
จำนอง – ขายฝาก ผ่าน Land for Loan
Best Deal Guarantee
วงเงินสูง อนุมัติไว ดอกเบี้ยต่ำ
สินเชื่อบ้าน และที่ดิน จัดดให้ครบ ที่นี่ที่เดียว ที่ Land for Loan❗️
จำนอง–ขายฝาก ที่ดิน บ้าน คอนโดดอกเบี้ยถูก เริ่มต้น เพียง!! 0.75% /เดือน ถูกกฎหมาย ปลอดภัย
ปิดหนี้นอกระบบ ปิดหนี้บัตร เป็นธรรม สร้าง-ขยายธุรกิจ หมุนธุรกิจ เงินทุนดอกต่ำ
✅ไม่เช็คแบล็คลิสต์
✅ไม่เช็คเครดิตบูโร
✅อนุมัติไว
สนใจดูรายละเอียดได้ที่ www.landforloan.co.th
บริการให้คำปรึกษา ฟรี
LINE ID: @landforloan
โทร : 065 153 9199
รับจำนองที่ดินเปล่า,จำนองที่ดินเปล่า,บริษัทรับจำนอง ที่ดินเปล่า,เอกชนรับจำนองที่ดิน,นายทุนรับจำนองที่ดินเปล่า,จำนองที่ดินกับธนาคาร,จำนองที่ดินเปล่ากับธนาคาร,จำนองที่ดินกับบุคคล,จำนองที่ดินเปล่า ที่ไหนดี,จำนองที่ดินเปล่า กับนายทุน,ที่ดินเปล่ากับธนาคาร อนุมัติยาก,จํานําโฉนดที่ดิน ที่ไหนดี,จํานองที่ดิน ที่ไหนดี,รับจำนองที่ดิน,สินเชื่อโฉนดที่ดิน ที่ไหนดี,จํา น อง ที่ดิน เปล่า,จำนองที่ดิน,จํานองที่ดิน ที่ไหนดี 2565,จํานองที่ดิน ธนาคารไหนดี,จำนองที่ดิน ไม่เช็คบูโร,จำนองที่ดิน ไม่เช็คบูโร สามารถจำนองกับที่ไหนได้บ้าง,ไม่เช็คบูโร,จํานองที่ดิน ที่ไหนดี 2566